วันอาทิตย์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการทำงาน
Ulead Video Studio 11


เป็นโปรแกรมตัดต่อวีดีโอที่มีการใช้งานไม่ยากจนเกินไป แม้ผู้ที่เริ่มใช้งานก็สามารถที่จะสร้างวีดีโอได้เหมือนกับผู้ที่มีประสบการณ์ตัดต่อวีดีโอมานาน โปรแกรมนี้มีเครื่องมือต่างๆ สำหรับตัดต่อวีดีโออย่างครบถ้วน เริ่มตั้งแต่จับภาพจากกล้องเข้าคอมพิวเตอร์ ตัดต่อวีดีโอ ใส่เอ็ฟเฟ็กต์ต่างๆ แทรกดนตรีประกอบ แทรกคำบรรยาย ไปจนถึงบันทึกวีดีโอที่ตัดต่อกลับลงเทป, VCD, DVD หรือแม้กระทั่งเผยแพร่ผลงานทางเว็บ



โปรแกรม Ulead มีการทำงานเป็นขั้นตอนที่ง่าย ตั้งแต่จับภาพ ตัดต่อไปจนถึงเขียนลงแผ่น นอกจากนี้แล้วโปรแกรมยังมีเอ็ฟเฟ็กต์ต่างๆ อีกมากมาย ไตเติ้ลสำเร็จรูปแบบมืออาชีพ รวมทั้งยังมีเครื่องมือที่ใช้สำหรับสร้างซาวนด์แทร็คอย่างง่ายๆ อีกด้วย

เครื่องมือในโปรแกรม Ulead 
1. Step Panel 
กลุ่มของปุ่มที่ใช้สลับไปมาในขั้นตอนต่างๆ ของการตัดต่อวีดีโอ เช่น ต้องการจับภาพจากกล้องวีดีโอก็คลิกปุ่ม Capture หากต้องการแก้ไข/ตัดต่อวีดีโอ คลิกปุ่ม Edit ต้องการใส่ข้อความในวีดีโอ คลิกปุ่ม Title เป็นต้น 
2. Menu Bar 
แถบเมนูของชุดคำสั่งต่างๆ เช่น สร้างโครงการใหม่ เปิดโครงการ บันทึกโครงการ เป็นต้น
3. Options Panel
ส่วนนี้จะมี ปุ่มและข้อมูลอื่นๆ ที่ให้คุณได้ปรับแต่งคลิปที่คุณเลือกไว้ ฟังชั่นก์ต่างๆ ในส่วนนี้จะเปลี่ยนไปตามขั้นตอนที่คุณกำลังทำงานอยู่ เช่น คุณเลือกคลิปวีดีโอ ก็จะมีฟังก์ชั่นต่างๆ สำหรับจัดการกับคลิปวีดีโอหรือคุณเลือกเสียง ก็จะมีฟังก์ชั่นสำหรับการจัดการเรื่องเสียง เป็นต้น
4. Preview Window
หน้าต่างแสดงคลิปปัจจุบันตัวกรองวีดีโอเอฟเฟ็กต์หรือตัวหนังสือ ต้องการดูผลลัพธ์ของการตัดต่อต่างๆ สามารถดูได้ในหน้าต่างนี้
5. Navigation Panel
มีปุ่มสำหรับเล่นคลิปวีดีโอและสำหรับตัดวีดีโอ ในขั้นตอนการจับภาพส่วนนี้จะทำหน้าที่เป็นอุปกรณ์ควบคุมกล้องวีดีโอ เช่น เล่นวีดีโอ หยุด หยุดชั่วขณะ กรอไปข้างหน้า กรอกลับ เป็นต้น
6. Library
เก็บและรวบรวมทุกอย่างไว้ ไม่ว่าจะเป็น วีดีโอเสียงภาพนิ่งเอฟเฟ็กต์ต่างๆ เป็นต้น ทำให้สะดวกในการเรียกใช้งาน
7. Timeline
แสดงคลิปตัวหนังสือและเอฟเฟ็กต์ต่างๆ ที่อยู่ในโครงการStep Panelส่วนนี้เป็นส่วนของขั้นตอน ต่างๆ ในการตัดต่อวีดีโอ ขั้นตอนเหล่านี้ ไม่จำเป็นต้องทำทุกขั้นตอน หรือข้าม



 SMRecorder 

เป็นโปรแกรมอัดเสียง วีดีโอ สารพัดประโยชน์ เป็นโปรแกรมขนาดเล็ก จริงๆ แล้วมันคือโปรแกรมอัดภาพเคลื่อนไหว ในรูปแบบ วีดีโอ (VDO) พร้อมผสมผสานการ บันทึกเสียง ผ่านไมโครโฟนหรือผ่านเพลงหรือไฟล์ MP3 ได้อย่างลงตัว ทั้งนี้ประโยชน์ของมันคือ เพื่อใช้ในการทำสื่อการสอน (CAI) หรือจะเป็น วีดีโอสอนการใช้งานโปรแกรม ใส่หมายเหตุแทรกเข้าไปประกอบภายในวีดีโอได้ เรีกยได้ว่า โปรแกรม SMRecorder นี้เป็นโปรแกรมแบบทรีอินวัน (3-in-1) คือสามารถเป็นได้ทั้งโปรแกรมอัดวิดีโอ หน้าจอ และโปรแกรมอัดเสียง และ {โปรแกรมอัดวีดีโอจากเว็บแคม ไปในตัว ใช้งานง่ายมากๆ มีอยู่ไม่กี่ เมนู แค่เมนูตั้งค่าทั่วไป (General) เมนูตั้งค่าวีดีโอ (Video Setting) และ ตั้งค่าเสียง (Audio Setting) ซึ่งสามารถตั้งค่าความละเอียดได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพ หรือ ความคมชัด ของทั้งภาพและเสียง 

Program Features (คุณสมบัติและความสามารถของโปรแกรม SMRecorder) :
     - เมนูตั้งค่าทั่วไป (General Setting)
     - สามารถกำหนดโฟลเดอร์ที่จะเซฟบันทึกไฟล์ลงไปได้ด้วยตัวเอง (Destination Path)
     - สามารถกำหนดความยาวของไฟล์วีดีโอได้ อาทิเช่น 60 นาที (หรือ 1 ชั่วโมง) เป็นต้น
    - สามารถกำหนดขนาดความกว้าง (Width) x สูง (Height) หรือที่เรียกว่า Screen Resolution ได้เอง อาทิเช่น วีดีโอขนาดตามที่หน้าจอตั้งค่าเอาไว้ 640 x 480 พิกเซล 800 x 600 พิกเซล หรือจะเป็น 1,024 x 768 พิกเซล 1,280 x 800 พิกเซล เป็นต้น
   - สามารถกำหนดแหล่งที่มาขอเสียงได้ ว่าจะนำเสียงเข้าไปประกอบ อัดลงในวีดีโอ จากแหล่งใด อาทิเช่น จากไมโครโฟน จากช่อง Line-in หรือจะเป็นจากไฟล์ MP3 เป็นต้น
   - สามารถกำหนดได้ว่าจะซ่อนหน้าต่างของโปรแกรม SMRecorder ขณะกำลังบันทึกวีดีโอหน้าจอ หรือไม่
   - สามารถกำหนดได้ว่าจะให้แสดงโฟลเดอร์ หรือ เปิดไฟล์งานวีดีโอ เมื่อเสร็จสิ้นการอัดหรือไม่
   - เมนูตั้งค่าวีดีโอ (Video Setting)
   - สามารถเลือกคุณภาพของไฟล์งานวีดีโอที่จะแปลงได้ ว่าจะคุณภาพสูง (High-Quality) ขนาดไฟล์ใหญ่ หรือแบบคุณภาพต่ำ (Low-Quality) ขนาดไฟล์เล็ก
   - สามารถกำหนดจำนวนเฟรม ว่าจะอัดวีดีโอหน้าจอกันที่กี่เฟรมต่อวินาที (Frames/second) ยิ่งมาก ยิ่งชัด แต่ขนาดไฟล์ก็จะใหญ่ตามไปด้วยเช่นกัน
   - สามารถเลือกได้ด้วยว่าจะให้ อัดวีดีโอหน้าจอ ที่มีเคอร์เซอร์เม้าส์ เลื่อนไปเลื่อนมาในวีดีโอด้วยหรือไม่
   - สามารถเลือกได้ว่าจะให้ อัดวีดีโอหน้าจอ ในส่วนหน้าต่างที่โปร่งใส (Transparent Windows) ไปด้วยเลยหรือไม่
   - เมนูตั้งค่าเสียง (Audio Setting)
   - สามารถกำหนดหรือปรับระดับเสียงจากแหล่งที่มาต่างๆ ว่าจะได้ดังหรือค่อยในระดับใด ขณะกำลังทำการอัด
   - ตั้งค่าอื่นๆ เชิงลึกของเสียงได้มากมาย อาทิเช่น
     Sample Frequency หน่วยเป็น Hz
     Bit/Sample หน่วยเป็น Bits
     จำนวน Channels
     Delay Audio หน่วยเป็นวินาที
     และอื่นๆ
   - สามารถแทรก ใส่ข้อความที่เป็นรูปภาพ เพื่อใช้ในการประกอบการอัดวีดีโอ การนำเสนองานผ่านวีดีโอ ได้ (Image Annotation)
   - มีความสามารถของ โปรแกรมอัดเสียง หรือ โปรแกรมอัดวีดีโอ จากเว็บแคม อย่างเดียวได้อีกด้วย


   - สามารถเซฟบันทึกไฟล์งานแปลงไฟล์ออกไปเป็นไฟล์วีดีโอ ชั้นนำ อย่าง .AVI และ .WMV ทันที

วันอาทิตย์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ตัวอย่างโครงงานเรื่อง
ระบบจัดการแผนงานออนไลน์
ความเป็นมาของโครงงาน
จากการสอบถามข้อมูลปัญหาและความต้องการจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายงานในโรงเรียนพบว่า ปัญหาในการตรวจสอบการใช้งบประมาณของแต่ละโครงการของฝ่ายงานต่างๆ ต้องตรวจสอบกับเอกสารของฝ่ายแผนงานเท่านั้นทำให้ยุ่งยากในการตรวจสอบ โดยเฉพาะบางกลุ่มงานไม่ได้บันทึกข้อมูลการใช้งบประมาณ ทางกลุ่มจึงได้เสนอโครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทพัฒนาโปรแกรมเรื่อง ระบบจัดการแผนงานออนไลน์

วัตถุประสงค์ของโครงงาน
เพื่อพัฒนาโปรแกรมระบบจัดการแผนงานออนไลน์ โรงเรียนสุราษฎร์พิทยา
เพื่อปรับปรุงให้มีความสอดคล้อง ตรงตามเป้าหมายของผู้ใช้งาน

ขอบเขตการศึกษา
การใช้งานของระบบจัดการแผนงานออนไลน์ของกลุ่มงานนโยบายและแผนงาน

โรงเรียนสุราษฎร์พิทยา


วิธีดำเนินการ
1.เลือกหัวข้อโครงงาน
2.ศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับโครงงาน
3.จัดทำข้อเสนอโครงงาน
4.จัดทำโครงงานประกอบด้วย 4 ขั้นตอน ดังนี้
5.วิเคราะห์และกำหนดรายละเอียดของปัญหา
6.เลือกเครื่องมือและออกแบบขั้นตอนวิธีในการแก้ปัญหา
7.ดำเนินการแก้ปัญหา
8.ตรวจสอบและปรับปรุงวิธีการ
9.จัดทำคู่มือการใช้งาน
10.เขียนรายงาน
11.นำเสนอและแสดงผลงานของโครงงาน

สรุปผล อภิปราย และข้อเสนอแนะ
โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่องระบบจัดการแผนงานออนไลน์โดยดำเนินการจัดทำโครงงานตามแนวทางการพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ 6 ขั้นตอนคือ การเลือกหัวข้อโครงงาน การศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับโครงงาน การจัดทำข้อเสนอโครงงาน และการจัดทำโครงงาน ขอบเขตการทำงานของระบบจัดการแผนงานออนไลน์สำหรับกลุ่มงานนโยบายและแผนงานโรงเรียนสุราษฎร์พิทยา http://planonline.srp.ac.th/ คือผู้ใช้ต้อง Login เข้ามาใช้ระบบ ซึ่งระบบจะรับข้อมูลชื่อโครงการและรายละเอียดของกิจกรรมและสามารถเพิ่มรายการการเบิกจ่ายงบประมาณ ตรวจสอบยอดงบประมาณรวมของกิจกรรมในแต่ละโครงการและยอดงบประมาณที่เหลือจากการหักค่าใช้จ่ายในแต่ละครั้งสามารถแสดง Report รายงานข้อมูลจำนวนเงินคงเหลือในแต่ละโครงการของฝ่ายงาน และยอดรวมจำนวนเงินของทุกฝ่ายงานออกมาเป็นช่วงเดือนหรือรายปีและสามารถประเมินผลการดำเนินงานผ่านทางเว็บไซต์ได้ รวมทั้งส่งออกเป็นไฟล์งาน Excel และไฟล์งาน Word เพื่อให้สะดวกต่อการนำไปใช้งานต่อได้

ปัญหาอุปสรรคในการทำโครงงาน 
     การพัฒนาระบบให้รองรับกับทุกบราวเซอร์ซึ่งขณะนี้ใช้ได้ดีกับ google chrome
ข้อเสนอแนะ 
     พัฒนาให้ใช้งานของโรงเรียนต่างๆ

วันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ความหมายของภาษาอังกฤษ

          เป็นภาษาในกลุ่มภาษาเจอร์เมนิกตะวันตกที่ใช้ครั้งแรกในอังกฤษสมัยต้นยุคกลาง และปัจจุบันเป็นภาษาที่ใช้กันแพร่หลายที่สุดในโลก ประชากรส่วนใหญ่ในหลายประเทศ รวมทั้ง สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริการ แคนาดา ออสเตรเลีย ไอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ และประเทศในแคริบเบียนพูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่หนึ่ง ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ที่มีผู้พูดมากที่สุดเป็นอันดับสามของโลก รองจากภาษาจีนกลางและภาษาสเปน มักมีผู้เรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองอย่างกว้างขวาง และภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการของสหภาพยุโรป หลายประเทศเครือจักรภพแห่งชาติ และสหประชาชาติตลอดจนองค์การระดับโลกหลายองค์การ

วันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2557


ความสำคัญของภาษาอังกฤษ 
ภาษาอังกฤษได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตของคนไทย และคนทั่วโลกไปแล้ว มนุษยชาติทุกวันนี้สื่อสารกันด้วยภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อสื่อสารกันโดยตรง การใช้อินเตอร์เน็ต การดูทีวี การดูภาพยนตร์ การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ หนังสือคู่มือทางด้านวิชาการต่างๆ ฯลฯ บัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาออกมาในปัจจุบัน ถ้ามีความรู้ภาษาอังกฤษทั้งพูดและเขียนเสริมเข้าไปด้วยอีก โอกาสที่จะหางานก็จะไม่จำกัดแค่ในประเทศไทย เท่านั้น ถ้าท่านเป็นคนหนึ่งที่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ ท่านคงจะไม่ปฏิเสธได้ถึงสิทธิพิเศษที่ท่านมีเหนือคนอื่นที่ไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ ด้วยเทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต ทำให้โลกของเราแคบลงไปถนัดตา ทุกวันนี้ท่านสามารถรับรู้ข่าวสาร หรือติดต่อกับเพื่อนต่างชาติได้ภายในเสี้ยววินาที ท่านจะไม่เข้าถึงสิทธิพิเศษเหล่านี้เลย ถ้าท่านไม่รู้ภาษาอังกฤษ ระบบการเรียนการสอนภาษาอังกฤษในโรงเรียนของไทยหลายท่านอาจจะบอกว่า ประเทศไทยเราก็ให้ความสำคัญกับการเรียนภาษาอังกฤษมาตั้งนานแล้ว แต่ทำไมคนไทยถึงพูดภาษาอังกฤษสู้คนฟิลิปปินส์ไม่ได้เลย นั่นก็เพราะว่าหลักสูตรภาษาอังกฤษของกระทรวงศึกษาธิการของเรายังไม่ได้เน้นการพูดภาษาอังกฤษ จะเน้นแต่หลักไวยากรณ์ คำแปล และการอ่านเพื่อความเข้าใจและให้สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้เป็นส่วนใหญ่ สิ่งที่จะต้องปรับปรุงอย่างมากในระบบการเรียนภาษาอังกฤษของไทยเราคือ การเน้นการพูดออกเสียง ไม่ว่าจะเป็นการออกเสียงพยัญชนะแต่ละตัว การเน้นเสียงหนักเบา ซึ่งจะต้องมีสื่อช่วยสอนที่เป็นมัลติมีเดีย คือ มีทั้งภาพ เสียง และตัวหนังสือ ให้ด้วย แทนระบบเก่าที่มีแต่ตัวหนังสือเท่านั้น ทำให้การออกเสียงตามคำอ่านที่เขียนในตำราหรือพจนานุกรมที่ผิดๆ เช่นคำว่า cat ในพจนานุกรมอังกฤษไทยจะเขียนคำอ่านเป็น แค้ท ซึ่งแปลมาจากคำอ่านพจนานุกรมอังกฤษเป็นอังกฤษ ทำให้คนไทยเข้าใจว่า ไม่ต้องออกเสียงตัว t ที่อยู่ตอนท้ายด้วย น่าจะเขียนคำอ่านเป็น แค่ท-ถึ (ออกเสียง ถึ เบาๆ) แต่ถ้าเราจัดทำสื่อการเรียนการสอนแบบมัลติมีเดีย เด็กก็จะได้ยินทั้งเสียงที่ถูกต้อง ได้เห็นภาพ และตัวหนังสือด้วย ซึ่งทำได้ไม่ยาก และต้นทุนก็ไม่มาก การเรียนของเด็กก็จะมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

วันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2557

สาเหตุที่เด็กไทยอ่อนภาษาอังกฤษ
          1) เด็กไทยรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษน้อย  เป็นสาเหตุที่ส่งผลร้ายแรงที่สุด ตราบใดที่ไม่รู้คำศัพท์ก็อย่าหวังว่าจะพูดได้ เพราะในเมื่อคลังคำศัพท์เรามีน้อยเหลือเกินเราก็ไม่สามารถจะคิดประโยคที่ใช้ในการสื่อสารได้ ไม่ใช่แค่เฉพาะการพูดหรือเขียน ฟังกับอ่านก็ไม่ได้ด้วย

            2) เด็กไทยไม่ค่อยได้ใช้ภาษาอังกฤษ แม้ว่าโรงเรียนจะจ้างอาจารย์ชาวต่างชาติมาสอน แต่อาจจะมีเวลาพูดคุยกับอาจารย์ชาวต่างชาติจริงๆ ก็แค่อาทิตย์ละ 1 ชั่วโมง ดังนั้นเมื่อไม่มีช่องทาง เราก็จะไม่ใช้กันเลย 
           3) เด็กไทยไม่กล้าพูดภาษาอังกฤษ ความอายทำให้เราสูญเสียโอกาสหลายๆ อย่างในชีวิตโรงเรียนจะให้ออกไปสัมภาษณ์ชาวต่างชาติ เป็นโอกาสอันดีของเราที่จะได้คุยกับเจ้าของภาษา 

          4) ภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาถิ่นของตนเอง เป็นเรื่องที่ดีที่ชาติไทยไม่เคยตกเป็นเมืองขึ้นของใคร แต่มันก็มีจุดอ่อน ทำให้เราไม่สันทัดในภาษาอังกฤษ และเรายังมีภาษาไทยเป็นภาษาประจำชาติอีกด้วย พูด ฟัง อ่าน เขียน เป็นภาษาไทย แต่ละวันเลยแทบจะไม่ได้ใช้ภาษาอื่นเลย  

วันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2557

วิธีการฝึก ฟังภาษาอังกฤษ ให้ได้ผลเร็ว

1.  ฝึกฟังจากเทป บทสนทนาภาษาอังกฤษ ซึ่งบทสนทนานั้นจะต้องพูดด้วยความเร็วปกติที่ชาวต่างชาติพูด   อย่าฝึกฟังจากเทปที่พูดช้ากว่าการพูดปกติของเขา เนื่องจากจะทำให้เราเคยชินกับการฟังภาษาอังกฤษ แบบที่พูดช้าๆ และเมื่อเจอชาวต่างชาติที่พูดด้วยอัตราความเร็วปกติ เราก็ไม่เข้าใจเช่นเดิม
2.  การฝึกฟังครั้งแรกๆ ควรเริ่มฟัง ครั้งละ  5 - 10 ประโยค (อย่าฟังประโยคเยอะเกินไปจนไม่สามารถจะจำประโยคเหล่านั้นได้)  
3.  ขณะที่ฝึก ฟังภาษาอังกฤษ ต้องมี Script เสมอ 
4.  ในการฝึกฟังแต่ละครั้ง ต้องฟังให้ได้อย่างน้อย 4 รอบ คือ -  รอบที่ 1 ฟังพร้อม Script และหากเห็นว่าคำใดที่เราเคยออกเสียงไม่เหมือนเขา หรือเราฟังไม่รู้เรื่องแม้จะมี Script  ให้หยุดเทป แล้วจดลงในScript ว่า เสียงที่เราได้ยินนั้นคืออะไร  รอบที่ 2 และ 3 ออกเสียงตาม  รอบที่ 4, 5, 6, ..... ลองฟังแบบหลับตา โดยไม่มี Script 
5.  ช่วงแรก ขอให้ฝึกฟังประโยคเดิมๆ ด้วยวิธีข้างต้น สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง (ฝึกทุกวันได้ยิ่งดี) แล้วจึงค่อยๆเพิ่มจำนวนประโยคให้มากขึ้นเป็น 15-20 ประโยค ต่อการฝึกฟังแต่ละครั้ง